daytripsNeighbourhood

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน2 คืน แบบละเอียดยิบๆ เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน มีบอกหมด

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน2 คืน แบบละเอียดยิบๆ เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน มีบอกหมด

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์

สิงคโปร์  เมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วย Landmark สถานที่ท่องเที่ยวโดน ๆ ที่เรียกว่าทริปวันหยุดสุดสัปดาห์สั้น ๆ ก็ทรหดและแน่นเอี้ยดได้เหมือนกัน  สำหรับคนที่เคยไปมาบ้างแล้ว  ก็ยังคงต้องแวะเวียนกลับไปเรื่อย ๆ เพราะที่เที่ยวใหม่ ๆ ยังมีขยันผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดมากันเรื่อย ๆ ส่วนใครที่กำลังทำการบ้านหัวหมุนกลับทริปสิงคโปร์ครั้งแรก  ยิ่งถ้าอยากได้แบบรวดเดียวครบจบในทริปด้วยล่ะก็รับรองได้ว่าหัวปั่นแน่นอน  งั้นมาลองดู “รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน2 คืน แบบละเอียดยิบๆ เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน มีบอกหมด” ของเรากันดูดีกว่า  ชอบตรงไหน  ถูกใจอะไรก็หยิบฉวยไอเดียไปใช้ได้เลย

Day # 0 : การเตรียมตัวก่อนเดินทาง – หลายวันก่อนการเดินทาง

ก่อนจะออกเดินทางกันจริง ๆ จัง ๆ มันก็ต้องมีการวางแผน  และเตรียมตัวกันก่อน  โดยเฉพาะการจองตั๋วเครื่องบิน  จองที่พัก  บัตรเข้าสถานที่ท่องเที่ยว  บัตรโดยสาร  ต่าง ๆ นานาสาระพัด  ซึ่งก็ใช้เวลานาน  เพราะต้องเล็งต้องเลือก  หรือบางทีต้องรอโปรโมชั่นอีกต่างหาก  จะได้ ๆ ราคาดีที่สุด (ของช่วงที่เดินทาง)

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์

เราเลือกจองตั๋วเครื่องบินไปสิงคโปร์กับ Traveloka เพราะเห็นโปรโมชั่นดี ๆ ราคาโดน ๆ ระหว่างหาข้อมูลเตรียมวางแผนทริปการเดินทาง  บวกกับได้โค้ดส่วนลดของ Traveloka ลดเพิ่มไปอีก  ก็ยิ่ง Save ค่าใช้จ่ายลงไปได้เพิ่มอีกอีก แต่ขอกระซิบบอกเคล็ดนิดหนึ่ง สำหรับคนที่ไม่อยากวุ่นวายซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม พร้อมกับอยากมีข้าวกินระหว่างการเดินทาง แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินฟูลเซอร์วิสไปเลย ซึ่งแนะนำสายการบินที่แนะนำก็คือ Singapore Airlines รับรองจองที่ครบ จบ ไม่ยุ่งยาก

จองตั๋วเครื่องบินไปสิงคโปร์กับ Traveloka คลิก

จองตั๋วเครื่องบิน

จองตั๋วเครื่องบิน Singapore Airlines กับ Traveloka คลิก

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์
รีวิว เที่ยวสิงคโปร์

สำหรับที่พักเราเลือกพักที่  Swissotel The Stamford Singapore  ซึ่งจองกับ Traveloka ได้ราคาดีมาก ๆ ด้วย  ถ้าใครสนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่พัก  Swissotel The Stamford  กับ  Traveloka ก็คลิกเลย  แต่เหตุผลที่เลือกพักที่นี่นอกเหนือจากราคาดี  คือ Location ที่ตั้งของโรงแรมซึ่งวิวดีมาก ๆ สามารถมองเห็นวิวสุดอลังการของ Marina Bay Sands อ่าวMarina โรงละคร Esplanade, Singapore Flyer และ Garden by the Bay ได้จากห้องพัก  เฉพาะห้อง Bay View นะ  แต่ถ้าเข้าพักห้องแบบ City View ก็ไม่เป็นไร  เพราะสามารถชมวิวแบบเดียวกันได้จากห้องอาหารชั้นบนของโรงแรม ชั้นสระว่ายน้ำ  และพื้นที่ส่วนกลางได้เหมือนกัน

ในส่วนของการเดินทางสำหรับที่โรงแรม Swissotel The Stamford ก็สะดวกเอามาก ๆ เพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน MRT  สายสีเขียวและสายสีแดง สถานี City Hall  เรียกว่าเกือบติดสถานี MRT เลยก็ว่าได้  เพราะขึ้นจากสถานีเดินข้ามถนนมาเพียง 200 เมตรก็ถึงโรงแรมแล้ว  แถมยังไม่ไกลจากโรงละคร Esplanade แบบเดินไม่เกิน 5 นาทีถึง  และก็อยู่ไม่ไกลจาก MRT สายสีส้ม สถานี Esplanade ด้วย

เรียกว่าเป็นทำเลที่สะดวกเที่ยวที่สุด ทั้งเดินไปสถานที่เที่ยวได้  ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน 3 สาย 2 สถานี  ที่นี่แหละ Prime Location ที่สุดแล้ว 

 

โดย MRT ทั้ง 3 สายที่ใกล็โรงแรม Swissotel The Stamford ทั้ง 3 สายเป็นเส้นทางที่จะต้องใช้ในทริปนี้ทั้งสิ้น  ทั้งสายสีเขียว  สำหรับเดินทางไปสนามบินชางฮี (Changi International Airport) สายสีแดงซึ่งผ่านย่านช้อปปิ้ง  ย่านธุรกิจ  และย่านท่องเที่ยวอย่าง ถนน Orchard และ Raffle Place   และสุดท้ายสายสีส้ม  ซึ่งเป็นเส้นทางไปยัง Landmark สำคัญ ๆ อย่าง Marin Bay Sands , Garden by the Bay , Singapore Flyer และโรงละคร Esplanade ส่วนการเปลี่ยนเส้นทางไป MRT สายสีม่วง เพื่อเดินทางไปยังเกาะ Sentosa ก็ไม่ยาก  เพราะจาก MRT สายสีเขียวและสายสีแดง สถานี City Hall หน้าที่พัก  สามารถย้อนขึ้นไปเพียง 1สถานีที่สถานี Dhoby Ghout  สถานีเชื่มต่อสานสีแดง  สีเขียว  และสายสีม่วงอีกด้วย

เช็คราคาที่พัก  ดูโปรโมชั่น  และส่วนลดที่พักในสิงคโปร์กับ Traveloka  คลิก

จองที่พัก

เพิ่มเติมอีกนิดในส่วนของการเดินทางทั้งหมดของทริปนี้  เราได้ซื้อบัตร Singapore Tourist Pass PLUS กับ Traveloka ล่วงหน้าก่อนการเดินทาง แล้วนำเอกสารการจองมารับบัตรที่เคาน์เตอร์ในสนามบิน  ซึ่งทั้งงาสย  สะดวก  และที่สำคัญถูกกว่าราคา Walk In มาซื้อบัตรที่สนามบิน  หรือเคาน์เตอร์ MRT ด้วยนะ  โดยสิทธิประโยชน์ของเข้าบัตร Singapore Tourist Pass PLUS นี่ก็ดีเว่อร์  เพราะมันสามารถใช้เป็นบัตรผ่านการเดินทางทั้งรถประจำทาง  รถไฟใต้ดิน MRT ทุกสายแบบไม่จำกัดตลอด 3 วันด้วย  เพราะหลังจากมาสิงคโปร์อยู่หลายครั้งแล้วลองเปรียบเทียบค่าเดินทางดู  บัตรนี้ถือว่าคุ้มสุด ๆ แล้ว  ก็เลยจัดมาคนละ 1 ล่วงหน้ากับ Traveloka ก่อนเลย

ดูรายละเอียดและราคาจองบัตร Singapore Tourist Pass PLUS กับ  Traveloka

Day # 1 : Merlion, Singapore Flyer. Garden By the Bay และ Marina Bay Sands

 

เมื่อวันเดินทางมาถึง  แล้วจะรออะไรรีบไปสนามบินซิ  เราเลือกไฟลท์บินให้มาถึงสิงคโปร์ประมาณเที่ยง  เพื่อจะได้พอดีเข้า Check In ที่โรงแรมได้พอดี  ซึ่งก็ได้เที่ยวบินที่มาถึงสิงคโปร์เวลา 11:15 น. หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง  ได้รับกระเป๋าเดินทาง  ก็เกือบจะเที่ยงวัน  รีบขึ้นรถไฟ MRT สายสีเขียวจากสนามบิน  เพื่อเข้ามาในเมือง  ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30นาที โดยมาลงที่สถานี City Hall เพื่อมุ่งหน้ายังที่พัก  โรงแรม Swissotel The Stamford Singapore หลังจาก Check – In เข้าห้องพัก  และเก็บสัมภาระเรียบร้อย  ก็มาเริ่มต้นเที่ยวสิงคโปร์กันจริง ๆ แล้วทีนี้

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน2 คืน แบบละเอียดยิบๆ เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน มีบอกหมด

เริ่มกันด้วยสัญลักษณ์ของเมืองสิงคโปร์  อย่างเจ้า Merlion สุดน่ารักที่ Merlion Park พร้อมทั้งดื่มดำกับบรรยากาศอ่าว Marina ไปพร้อม ๆ กับชมสถาปัตยกรรมระดับโลกสุดอลังการของโรงละคร Esplanade และ Marin Bay Sands   โดยเรานั่งรถไฟใต้ดิน  MRT มาลงที่สถานี Raffle Place แล้วเดินมาตามทางออก Fullerton Rd ตามถนนมาเรื่อย ๆ ก็จะเจอ Merlion Park

พิกัด :  Merlion Park

หลังจากชมวิว  กินบรรยากาศเรียบร้อยกันแล้วก็ได้เวลาอาหารมื้อบ่าย  มื้อแรกของทริปครั้งนี้  โดยเราก็เปิดมื้อแรกสุดปังเช่นกัน  กับเมนูสุดโด่งดังของสิงคโปร์อย่าง “Chilli Crab” ปูทะเลในพริกแกงรสชาติเข้ามข้นหวานมัน  ที่ภัตตาคารอาหารทะเล No Signboard Seafood  สุดโด่งดังของสิงคโปร์ที่สาขาแรกที่ โรงละคร Esplanade  ซึ่งจาก Merlion Park เราก็เลาะมาตาม Esplanade Bridge จนมาถึงโรงละคร Esplanade

พิกัด : ภัตตาคารอาหารทะเล No Signboard Seafood  และ โรงละคร Esplanade

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน2 คืน แบบละเอียดยิบๆ เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน มีบอกหมด

หลังจากอิ่มเอมกับมื้ออาหารเที่ยงกันเรียบร้อยแล้ว  เราก็เดินเล่นเลียบริมฝั่งอ่าว Marina มาเรื่อย ๆ ถือเป็นการย่อยอาหารไปในตัว  มุ่งหน้ายัง Singapore Flyer  ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ยักษ์  Observation Deck อันเป็น Landmark ไฮไลท์บนอ่าว Marina ของสิงคโปร์  ที่ตั้งแต่เป็นสง่าสะดุดตากับความสูง 165 เมตร  เทียบเท่าความสูงตึก 42 ชั้นโดยประมาณ  ซึ่งเป็นชิงช้าสวรรค์สำหรับชมวิวเมืองมุมสูงที่สูงที่สุดในเอเชียอีกด้วย  ให้ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ 30 นาทีสุดฟินเหนืออ่าว Marina Bay แบบพาโนรามา 360 องศาในมุมสูง  อันสวยงามตระการตา

พิกัด :  Singapore Flyer  

จองบัตรขึ้น Singapore Flyer พร้อมโปรโมชั่นดี ๆ กับ  Traveloka

จาก Singapore Flyer เราไปต่อกันที่ เขื่อน Marina Barrage โดยเดินชิลล์ ๆ มาตามสะพาน Helix Bridge  สุดเท่   ผ่าน Garden by the Bay มาก่อน  เรื่อย ๆ มาจนถึง เขื่อน Marina Barrage อันเป็นจุดหมายปลายทางของเรา  กับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ริมปากแม่น้ำสิงคโปร์เหนืออ่าว Marina Bay ที่กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจชิค ๆ สุดฮิตของวันรุ่นชาวสิงคโปร์  นอกจากเป็นที่พักผ่อนแล้วยังเป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมอย่างพายเรือคายัค  และเล่นว่าที่ดาดฟ้าอาคารอีกด้วย

พิกัด :  Marina Barrage

เพลิดเพลินใจเหนือเขื่อน Marina Barrage จนหนำใจแล้ว  ก็เดินย้อนกลับมานิดนึง  มาต่อกับหมู่มวลพฤกษชาติสุดล้ำสมัยเหมือนหลุดมาจากโลกอนาคต  ที่ Garden by the Bay  เรือนกระจกทรงโดมติดเครื่องปรับอากาศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก  โดยเราแวะที่ไฮไลท์แรกของ Garden by the Bay กันก่อน (เก็บทีเด็ดไว้หลังสุด) โดมพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่กว่า 250 เอเคอร์ 2 โดม  คือ Flower Dome ความสูง 35 เมตร และ Cloud Forest Dome ความสูง 38 เมตร ซึ่งภายในเต็มไปด้วยพืชพรรณไม้นานพันธุ์ซึ่งถูกจำลองเอาไว้ให้มีบรรยากาศคล้ายอยู่ในสภาพภูมิอากาศธรรมชาติของพืชชนิดนั้นจริง ๆ  ทั้งดอกไม้เมืองหนาว  พรรณไม้เขตร้อนชื้นแถบเมดิเตอร์เรเนียน  และพันธุ์พืชในเขตป่าดิบชื้น  โดย Cloud Forest Dome  นั้นได้บรรจุ น้ำตกในร่มความสูงถึง 35 เมตรที่เป็นน้ำตกในร่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ไว้ภายใน  พร้อมทางเดินลอยฟ้า Cloud Walk รอบตัวน้ำตกด้านบน  ให้ได้สัมผัสธรรมชาติเสมือนจริงที่รังสรรค์ด้วยมือมนุษย์อันงดงามอย่างใกล้ชิด  แต่ยัง Wow กันไม่จบที่ Garden by the Bay เพราะยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์อันเป็นทีเด็ดในยามค่ำคืนหลังพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าของที่นี่  นั้นก็คือ  Supretree Grove ต้นไม้จำลองขนาดยักษ์รูปทรงแปลกตาจำนวน 18 ต้น  ความสูง 25 – 50 เมตร พร้อม OBDC Skywalk ทางเชื่อมลอยฟ้าบนยอด Super Tree  ซึ่งประดับด้วยไฟและแสงสีสุดตระการตา  สวยงามเหนือจินตนาการ  ในบรรยากาศสุดโรมแมนติก

พิกัด : Garden by the Bay

จองบัตร Garden by the Bay สิงคโปร์ พร้อมโปรโมชั่นดี ๆ กับ Traveloka

ฟินเว่อร์กับความสวยอย่างน่าอัศจรรย์ของ Garden by the Bay กันไปแล้ว  ก็เร่งฝีเท้าสุดชีวิต  ข้ามสะพานทางเดินลอยฟ้า Dragon Bridge เพื่อไปยัง Marina Bay Sands แล้วรีบพุ่งไปริมน้ำข้างร้าน Louis Vuitton เพื่อจองที่นั่งมุมดี ๆ สำหรับชมการแสดง Spectra – A Light & Water Show รอบเวลา 20.00 น. จนถึงเวลา  20.15 น.  เมื่อการแสดงจบลงเราก็ย้ายเข้าในโซนห้างสรรพสินค้า  แวะหาร้านอาหารในส่วน Shopping Mall ทานรองท้องสำหรับมื้อเย็น

แล้วก็ขึ้นไปชมวิวมุมสูงสุด Panorama ที่ จุดชมวิว The Sands SkyPark Observation Deck ที่ระดับความสูง 360 เมตรบนชั้น 57 ของตึก Marina Bay Sands  ดื่มด่ำกับแสงสีของเมืองสิงคโปร์มุมสูงสุดโรมแมนติก  ถ่ายรูปชิค ๆ สุดเท่กับ Landmark อันโดดเดนของสิงคโปร์เป็นที่เรียบร้อยก็เป็นเวลาเกือบ 4 ทุ่ม

เราก็ค่อย ๆ เดินรับลมเย็น ๆ ริมอ่าวยามค่ำคืนผ่านสะพาน Helix Bridge และ Esplanade Bridge เพื่อมารอ Stand by ที่จุดชมวิว Merlion Park ที่เดิม (กับจุดเริ่มต้นแรกของวันนี้)  รอชมการแสดง Wonder Full – Light & Water Spectacular รอบ 23:00 น.  การแสดงแสงสี  เสียง  และน้ำพุของกลุ่มอาคาร Marina Bay Sands สุดอลังการตระการตา  อันเป็นอีกหนึ่งกิมมิคสำคัญที่พลาดไม่ได้ของสิงคโปร์อีกอย่างหนึ่ง  ถือเป็นการจบวันแรกของทริปสิงคโปร์อย่างสวยงาม

พิกัด : Marna Bay Sands

ในส่วนของบัตรขึ้นชม จุดชมวิว The Sands SkyPark Observation Deck ที่ Marina Bay Sands   สิงคโปร์ เราจองล่วงหน้ากับ Traveloka มาก่อนเช่นเดิม

จองบัตร The Sands SkyPark Observation Deck สิงคโปร์

พร้อมส่วนลด  และโปรโมชั่นดี ๆ กับ Traveloka

Day # 2 : เกาะ Sentosa , Sentosa Merlion , Universal Studio Singapore และ Hang Out ที่ Clarke Quay

 

เริ่มเช้าวันที่สองด้วยการเติมพลังให้อิ่มท้องกับไลน์บุพเฟ่ต์อาหารเช้าของโรงแรมกันก่อนเลย  เพราะวันนี้เป็นวันแห่งการใช้พลังงานที่เกาะ Sentasa กับเครื่องเล่นสุดท้าทาย  น่าหวาดเสียวของ Universal Studio Singapore กัน  เมื่อเรียบร้อยกับมื้อเช้าแล้วเวลาประมาณ 8:30 น.  ก็พากันเคลื่อนพลโดยใช้รถไฟใต้ดิน MRT สายสีแดงมาลงที่สถานี Dhoby Ghout เพื่อเปลี่ยนขบวนมายังสายสีม่วง  และมุ่งหน้าสู่สถานี Harbour Front ออกสู่อาคาร Vivo City เพื่อเตรียมตัวข้ามฝั่งไปยังเกาะ Sentasa  โดยการเดินทางไปยังเกาะ Sentosa นั้นมี 2 วิธี  คือเดินทางด้วยรถรางสาย Sentosa Express  และกระเช้าลอยฟ้า Singapore Cable Car Sky

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน2 คืน แบบละเอียดยิบๆ เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน มีบอกหมด

โดยเราเลือกเดินทางด้วยกระเช้าลอยฟ้า Singapore Cable Car Sky  เพื่อสัมผัสบรรยากาศเหนือท้องทะเลสุดท้าทาย และแอบหวาดเสียวหน่อย ๆ แต่ก็ Cool สุด ๆ แถมระหว่างทางนอกจากเห็นทัศนียภาพในแบบ Bird’s Eyes View ที่หาดูได้ยากแล้วยังได้ภาพถ่ายเท่ ๆ กลับมาอีกด้วย  ซึ่งในส่วนของบัตร Singapore Cable Car Sky  Pass เราก็จองกับ Traveloka อีกเช่นเคย  แต่ที่ดีงามกว่านั้นคือ  เราไม่ต้องยืนคอยต่อคิวยาว ๆ เพื่อรอซื้อบัตรอีกด้วย

ดูบัตรกระเช้าลอยฟ้า Singapore Cable Car Sky Pass สิงคโปร์ราคาดี ๆ แบบไม่ต้องต่อคิวกับ Traveloka

เมื่อกระเช้าลอยฟ้า Singapore Cable Car Sky  พาเรามาถึงยังเกาะ Sentosa ด้วยเวลาราว ๆ 10:00 น. ที่แรกที่มุ่งหน้าไปเลยคือที่  Sentosa Merlion  กับเจ้า Merlion ตัวใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์  ที่ยังเป็นจุดชมวิวมุมสูงของเกาะ Sentosa ที่ระดับความสูง 37 เมตร  หรือที่ชั้น 12 บริเวณปากของ Merlion นั่นเอง  แล้วจะรออะไร

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน2 คืน แบบละเอียดยิบๆ เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน มีบอกหมด

ก็เราซื้อบัตรขึ้น Merlion Tower บนเกาะ Sentosa พร้อมด้วยบัตรผ่าน Universal Studio Singapore แบบ 1-Days Pass กับ Traveloka ล่วงหน้ามาเรียบร้อยแล้ว  ไม่ต้องต่อคิว  ไม่ต้องเข้าแถวซื้อบัตร  ผ่านตลอด  Pass through ขึ้นไปชมวิวด้านบนกันเลย

พิกัด :  Merlion Sentosa

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน2 คืน แบบละเอียดยิบๆ เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน มีบอกหมด

Check – In และ Post ภาพถ่ายเก๋ ๆ จาก Sentosa Merlion ลง Social Media แล้ว  ก็เตรียมตัว Offline จากโลกโซเชียล  แล้วได้เวลาพาตัวเองไปสู่โลกแห่งอาณาจักรภาพยนตร์ Hollywood สุดอลังการ ตระการตา น่าตื่นเต้น  แบบลืมโลกภายนอกกันแล้ว  ได้เวลาสนุกแล้วซิ  ไปต่อกันเลยที่  Universal Studio Singapore  ตามฉบับสายชิลล์อย่างเรา  ไม่ต้องต่อคิวเดินตัวปลิวผ่านประตูไปเลย  ก็ซื้อบัตรล่วงหน้ากับ Traveloka มาแล้วไง

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน2 คืน แบบละเอียดยิบๆ เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน มีบอกหมด
รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน2 คืน แบบละเอียดยิบๆ เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน มีบอกหมด

Universal Studio Singapore สวนสนุกสุดฮอตระดับโลกบนเกาะเซนโตซ่า    ในรูปแบบของ Theme Park คอนเซ็ปต์หนัง Hollywood ที่รวบรวมทั้งเครื่องเล่นและกิจกรรมมากมายเอาไว้ มีเครื่องเล่นที่ทั้งสนุกสุดเหวี่ยง  ทั้งหวาดเสียวสุดท้าทายถึง 18 เครื่อง  ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ Universal Studio สิงคโปร์แห่งเดียวเท่านั้น  นอกจากนั้นยังมีการแสดง  ขบวนพาเหรด  และโชว์อีกมากมาย  ไปจนถึงฉากในภาพยนตร์เรื่องดังที่นำมาจำลองขั้นตอนการถ่ายทำให้ได้สัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงอย่างใกล้ชิด

พิกัด :  Universal Studio Singapore

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน2 คืน แบบละเอียดยิบๆ เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน มีบอกหมด

เราใช้เวลาทั้งวันจนเย็นพระอาทิตย์ตกดินที่ Universal Studio Singapore แบบสนุกจนลืมเวลาไปเลย  แต่ก็ไม่พลาดที่จะหยิบนาฬิกาขึ้นมาดูทันเวลาไป stand by สำหรับดูโชว์ไฮไลท์ของเกาะ Sentosa ทั้ง 2 โชว์  โดยเริ่มกันที่โชว์แรกซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก Universal Studio ก่อนกับ  การแสดง Sentosa Crane Dance  ซึ่งจัดแสดงรอบเดียวเวลา 20:00 น.  โชว์ใช้เวลาแสดงประมาณ 15 นาที  หลังจากจบโชว์ Crane Dance เรามีเวลาเหลืออีกครึ่งชั่วโมง  สำหรับการเดินทางย้ายไปยังจุดแสดงโชว์ต่อไป

พิกัด :  Sentosa Crane Dance

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน2 คืน แบบละเอียดยิบๆ เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน มีบอกหมด

เดินข้ามฝั่งเกาะ Sentosa มายังพื้นที่จัดแสดงโชว์อันมีสีสันสุดตระการตา  โชว์สุดท้ายบนเกาะ Sentosa แห่งนี้กับ การแสดง Wings Of Time รอบที่ 2 ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของวัน  เวลา 20:40 น.  นับเป็นฉากปิดของการเที่ยวบนเกาะ Sentosa แห่งนี้  แบบสมบูรณ์

พิกัด :  Wings Of Time Show

ส่วนใครที่มาทริปครอบครัว  ก็อาจจะต้องเพิ่มเวลาเที่ยวอีกสักวันบนเกาะ Sentosa แห่งนี้ หรือจะพักที่ Resort World Sentosa ก็ได้  เพราะบนเกาะยังทีสถานที่ท่องเที่ยวนอกจาก Universal Studio Singapore  แล้วอีกหลายแห่ง  ซึ่งส่วนมากเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง  ทั้ง Siloso Beach , S.E.A. Aquarium และ Adventure Cove Waterpark

ดูราคาและเช็คโปรโมชั่นที่พักใน Resort World Sentosa สิงคโปร์กับ Traveloka

ออกจากเกาะ Sentosa เวลาประมาณ 21:00 น.  ด้วยรถรางสาย Sentosa Express  ไปลงที่ชั้น 3 ห้าง Vivo Shopping Mall สถานีเดิมที่เดียวกับ Sky Cable Car แล้วต่อรถไฟใต้ดิน MRT สายสีม่วง มุ่งหน้าสู่สถานี Clarke Quay

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน2 คืน แบบละเอียดยิบๆ เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน มีบอกหมด

หลังจากใช้พลังงานที่มีหมดไปกับเครื่องเล่นใน Universal Studio  พร้อมทั้งหิ้วท้องอันว่างเปล่าและร่างพัง ๆ มา Hang Out  ให้เลือดลมสูบฉีดกันสักหน่อยที่ ย่าน Clarke Quay  พื้นที่กิน  ดื่ม  และใช้ไลฟ์สไตล์แบบ Night Life ริมแม่น้ำสิงคโปรสุดชิค  ก่อนจะกลับเข้าสู่ที่พัก  ปิดทริปวันที่ 2 แบบหมดพลัง

พิกัด :  Clarke Quay

Day # 3 : ถ่ายรูปชิคๆ ที่ Fort Canning  ชิมอาหารย่าน China Town และช้อปปิ้งก่อนกลับที่ Orchard Rd.

 

เช้าวันที่สาม  วันสุดท้ายของทริปสิงคโปร์ครั้งนี้แล้ว  เราเริ่มต้นวันด้วยอาหารเช้าที่โรงแรมเช่นเดิม  แต่ต่างจากเดิมตรงที่วันนี้เช้า  เราเก็บกระเป๋าเตรียม Check – Out ออกจากที่พักเลย  แต่อย่าคิดว่าเราจะลากกระเป๋าเที่ยว No No No เราก็ฝากกระเป๋าเดินทางไว้ที่ Lobby โรงแรมก่อนนั่นแหละ  แล้วก็ออกเที่ยวชิลล์ ๆ ตามสไตล์เราอย่างเดิม  โดยวันสุดท้ายเราเน้นให้เป็นวันสบาย ๆ เดินแล้วถ่ายรูปฮิป ๆ ช้อปปิ้งเบา ๆ ชิมอาหารฟิน ๆ

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน2 คืน แบบละเอียดยิบๆ เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน มีบอกหมด

โดยเริ่มต้นวันสุดท้ายแบบ Hipster กับที่เที่ยวสุด Unseen ของสิงคโปร์  โดยต่อรถไฟใต้ดิน MRT สายสีแดงมาลงที่สถานี Dhoby Ghout ทางออก B เพื่อไปที่สวนสาธารณะ Fort Canning Park  ปอดสุดแนว  อันเป็นพื้นที่รวมตัวของเหล่าวันรุ่นฮิป ๆ ของสิงคโปร์  กับอุโมงค์ต้นไม้เก๋ ๆ กางเดินเท่ ๆ และสวนที่ออกแบบตกแต่งแนว ๆ ที่ Hipster คนไหนพลาดที่นี่ไปบอกเลยว่าต้องเสียใจอย่างมาก

พิกัด : Fort Canning Park Singapore

หลังจากออกจากพื้นที่ฉีกแนวฉบับ Hipster กันแล้ว  ก็กลับไปยังสถานี Dhoby Ghout  ที่เดิม  เพื่อขึ้นรถไฟ MRT สายสีม่วง  สู่สถานี China Town  เพื่อออกตระเวนลิ้มชิมรสชาติอาหารอร่อย ๆ ซึ่งมีอยู่มากมายในย่าน China Town แห่งนี้  พร้อมเดินเล่นชมวิวสถาปัตยกรรมอาคารย่าน China Town อันเป็นเอกลักษณะ  และช้อปปิ้งสินค้าเก๋ ๆ ในย่านนี้ไปพราง ๆ ด้วย

พิกัด : China Town  

หลังเพลินเพลินกับย่านคนจีนในสิงคโปร์จนพอใจและอิ่มท้องแล้ว  ก็ใช้เจ้า MRT สายสีม่วงเจ้าเก่า  มุ่งหน้าสู่สถานี Dhoby Ghout  ที่เดิมเพิ่มเติมคือเปลี่ยนไปสายสีแดงแล้วต่อไปยังสถานี Somerset หรือถ้าใครยังไหวแรงเหลือไม่อยากเปลี่ยนขบวน MRT เดินตามป้ายละลานตาของสถานีให้ตาลาย  ก็สามารถออกสถานี Dhoby Ghout  แล้วเริ่มเดินไปยัง Orchard Road  ได้ไม่ไกล

รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน2 คืน แบบละเอียดยิบๆ เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน มีบอกหมด

ถนนสายชอปปิ้งชื่อดังของสิงคโปร์  อย่าง Orchard Road ถนนทั้งเส้นที่มีแต่ห้างสรรพสินค้า  และ Shopping Mall ขนาดใหญ่อันโด่งดัง  นอกจากจะมีร้านรวงให้เลือก Shoppimg กันอย่างสนุกแล้ว  ก็ยังมีทั้งร้านอาหาร  ร้านขนม  ร้านของฝาก  ให้เลือกจับจ่ายใช้สอยจนเพลินกันไปเลยด้วย

พิกัด : Orchard Road

จนได้เวลาแห่งการร่ำลาทริปสิงคโปร์  เราเผื่อเวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนถึงเวลา Check – In ที่เคาน์เตอร์สายการบินในสนามบินชางฮี  และยังไม่ลืมวกกลับไปเอากระเป๋าเดินทางและสัมภาระที่ฝากไว้ Lobby โรงแรมก่อน  ใช้ MRT สายสีเขียวมุ่งหน้าสู้สนามบินนานาชาติชางฮี  เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่ประเทศไทย

จบสมบูรณ์กับ “รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน2 คืน แบบละเอียดยิบๆ เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน มีบอกหมด”  ใครชอบหรือสนใจไอเดียไหน  ก็หยิบยกเอาไปใช้กันได้เลย  แล้วทริปสิงคโปร์คราวนี้จะได้ง่ายขึ้น  อีกทั้งยังเที่ยวจบครบในทริปเดียวด้วย  ที่สำคัญเพื่อความประหยัดในเรื่องค่าใช้จ่ายตลอดทริป  แนะนำเลยว่าอย่าลืมจองบัตรโดยสาร  และบัตรเข้าสถานที่ต่าง ๆ ในสิงคโปร์กับ Traveloka ไว้ล่วงหน้าก่อนเดินทางด้วยนะ  เพราะนอกจกาได้ราคาดี ๆ มีโปรโมชั่นแล้วที่สำคัญไปกว่านั้นคือไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิว  เข้าแถวซื้อบัตรยาว ๆ เอาเวลาไปเที่ยวกันดีกว่าเนอะ

Share:

Leave a reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *